Sweet Come in the Jar เค้กเก๋ ๆ มาในขวดแก้ว จากนิตยสาร @Kitchen เรื่อง : Petch ภาพ,สไตล์ลิส : คนธนันท์ สัญฐิติเสรี
เวลาจะทำขนมไปให้ใครไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่การต้องมาวิ่งหากล่องสำหรับใส่ขนม โดยเฉพาะขนมที่ตั้งใจทำมอบเป็นของขวัญนี้บางครั้งก็ทำให้หมดกำลังใจจะทำก็มี วันนี้เราจึงมีไอเดียนำขวดแก้วแบบที่กำลังเป็นที่นิยมมาปรับเป็นที่ใส่ขนมมาให้ลองทำตามกันดูคะ
@ ไวท์ช็อกโกแลตชีสเค้ก (Baked White Choc Cheese Cake)
สิ่งที่ต้องเตรียม
วิธีทำ
1. บดแครกเกอร์ผสมกับน้ำตาลทราย และเนยละลาย คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นตักใส่ขวดแก้วให้สูงประมาณ 1/4 ของขวด กดให้แน่น เตรียมไว้
2. อุ่นครีมสดให้ร้อนแล้วเทลงไปบนไวท์ช็อกโกแลต คนผสมให้ละลาย เตรียมไว้
3. ตีครีมชีสกับน้ำผึ้งให้เข้ากัน แล้วค่อย ๆ ใส่ไข่ลงไปทีละฟองจนครบ 4 ฟอง
4. เทไวท์ช็อกโกแลตและผิวส้มขูดลงไปผสมกับส่วนผสมครีมชีส แล้วตักส่วนผสมใส่ลงในแก้วบนส่วนผสมแครกเกอร์ให้สูงประมาณ 3/4 ของขวด
5. นำขวดขนมไปวางเรียงในถาดขอบสูง โดยปูผ้าไว้ด้านล่าง เทน้ำร้อนลงไปให้สูงถึงกลางขวด นำไปอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส ประมาณ 20-30 นาที หรือจนขนมสุก จากนั้นนำออกจากเตาวางพักไว้จนเย็น
6. ตักซอสสตรอว์เบอร์รีใส่ลงไปบนขนมที่เย็น ตกแต่งให้สวยงาม
@ เค้กช็อกโกแลตกับมิกซ์เบอร์รี่ (Chocolate Cake with Mix Berries)
สิ่งที่ต้องเตรียม
วิธีทำ
1. อบเค้กช็อกโกแลตในถาดสี่เหลี่ยมขอบเตี้ยหรือนำมาตัดให้หนาประมาณ 3/4 - 1 นิ้ว
2. ตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลไอซิ่งจนตั้งยอด นำไปคนผสมกับครีมชีส (ที่ตีไว้จนนิ่ม) ให้เข้ากัน ตักใส่ถุงบีบ เตรียมไว้
3. ตัดเค้กด้วยที่ตัดคุกกี้ให้ได้ขนาดเท่ากับขวดแก้วที่ใช้ แล้วนำเค้กวางลงไปในแก้ว
4. บีบส่วนผสมครีมชีสลงไปบนเค้กให้ได้ความหนาใกล้เคียงกับเนื้อเค้ก
5. ใส่ผลไม้สดลงไป จากนั้นวางเค้กทับลงไปอีกหนึ่งชั้น ตามด้วยครีมชีส ปิดท้ายด้วยผลไม้สด พร้อมเสิร์ฟ
ใครที่อยากทำเค้กเป็นของขวัญของฝากแต่ไม่อยากอยู่ในกรอบเดิม ๆ ก็ลองนำไปเก็บไว้เป็นไอเดียกันดูนะคะ รับรองว่าสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับเลยทีเดียว
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
@Kitchen
เวลาจะทำขนมไปให้ใครไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่การต้องมาวิ่งหากล่องสำหรับใส่ขนม โดยเฉพาะขนมที่ตั้งใจทำมอบเป็นของขวัญนี้บางครั้งก็ทำให้หมดกำลังใจจะทำก็มี วันนี้เราจึงมีไอเดียนำขวดแก้วแบบที่กำลังเป็นที่นิยมมาปรับเป็นที่ใส่ขนมมาให้ลองทำตามกันดูคะ
@ ไวท์ช็อกโกแลตชีสเค้ก (Baked White Choc Cheese Cake)
สิ่งที่ต้องเตรียม
- แครกเกอร์
- น้ำตาลทราย
- เนยละลาย
- ครีมสด 1/4 ถ้วย
- ไวท์ช็อกโกแลต 200 กรัม
- ครีมชีส 255 กรัม
- น้ำผึ้ง 1/2 ถ้วย
- ไข่ไก่ 4 ฟอง
- ผิวส้มขูด
- ซอสสตรอว์เบอร์รี
- ขวดแก้ว
- น้ำร้อน
- ถาดทรงสูง
- ผ้าสำหรับรองถาด
วิธีทำ
1. บดแครกเกอร์ผสมกับน้ำตาลทราย และเนยละลาย คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นตักใส่ขวดแก้วให้สูงประมาณ 1/4 ของขวด กดให้แน่น เตรียมไว้
2. อุ่นครีมสดให้ร้อนแล้วเทลงไปบนไวท์ช็อกโกแลต คนผสมให้ละลาย เตรียมไว้
3. ตีครีมชีสกับน้ำผึ้งให้เข้ากัน แล้วค่อย ๆ ใส่ไข่ลงไปทีละฟองจนครบ 4 ฟอง
4. เทไวท์ช็อกโกแลตและผิวส้มขูดลงไปผสมกับส่วนผสมครีมชีส แล้วตักส่วนผสมใส่ลงในแก้วบนส่วนผสมแครกเกอร์ให้สูงประมาณ 3/4 ของขวด
5. นำขวดขนมไปวางเรียงในถาดขอบสูง โดยปูผ้าไว้ด้านล่าง เทน้ำร้อนลงไปให้สูงถึงกลางขวด นำไปอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส ประมาณ 20-30 นาที หรือจนขนมสุก จากนั้นนำออกจากเตาวางพักไว้จนเย็น
6. ตักซอสสตรอว์เบอร์รีใส่ลงไปบนขนมที่เย็น ตกแต่งให้สวยงาม
@ เค้กช็อกโกแลตกับมิกซ์เบอร์รี่ (Chocolate Cake with Mix Berries)
สิ่งที่ต้องเตรียม
- เค้กช็อกโกแลตอบสุก
- วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย
- น้ำตาลไอซิ่ง 2-3 ช้อนโต๊ะ
- ครีมชีส (ตีผสมจนนิ่ม)
- ผลไม้สดตระกูลเบอร์รี (สตรอว์เบอร์รี, บลูเบอร์รี,ราสป์เบอร์รี)
วิธีทำ
1. อบเค้กช็อกโกแลตในถาดสี่เหลี่ยมขอบเตี้ยหรือนำมาตัดให้หนาประมาณ 3/4 - 1 นิ้ว
2. ตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลไอซิ่งจนตั้งยอด นำไปคนผสมกับครีมชีส (ที่ตีไว้จนนิ่ม) ให้เข้ากัน ตักใส่ถุงบีบ เตรียมไว้
3. ตัดเค้กด้วยที่ตัดคุกกี้ให้ได้ขนาดเท่ากับขวดแก้วที่ใช้ แล้วนำเค้กวางลงไปในแก้ว
4. บีบส่วนผสมครีมชีสลงไปบนเค้กให้ได้ความหนาใกล้เคียงกับเนื้อเค้ก
5. ใส่ผลไม้สดลงไป จากนั้นวางเค้กทับลงไปอีกหนึ่งชั้น ตามด้วยครีมชีส ปิดท้ายด้วยผลไม้สด พร้อมเสิร์ฟ
ใครที่อยากทำเค้กเป็นของขวัญของฝากแต่ไม่อยากอยู่ในกรอบเดิม ๆ ก็ลองนำไปเก็บไว้เป็นไอเดียกันดูนะคะ รับรองว่าสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับเลยทีเดียว
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
@Kitchen