ขนมผักกาดสูตรนี้การันตีได้เลยว่า คุณจะได้กินขนมผักกาดที่อร่อย แป้งน้อย เนื้อนุ่มไม่แข็งกระด้างอีกด้วย ซึ่งสูตรขนมผักกาดง่าย ๆ ที่ทำได้ด้วยกระทะเทฟลอนของคุณ Swin (Pantip) ที่เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาจากการที่เห็นขนมผักกาดปรุงสำเร็จในท้องตลาดนั้นมีแต่แป้ง เนื้อแข็ง และถ้าต้องการจะทำขนมผักกาดกินเองก็มีขั้นตอนการทำที่ยุ่งยาก ใช้เวลานานเนื่องจากต้องนำขนมไปนึ่งแล้วนำไปแช่เย็นก่อนจะนำออกมาผัดได้อีกครั้ง เลยดัดแปลงสูตรแบบเดิม ๆ โดยการใส่หัวไชเท้าที่เยอะขึ้นลงไปในส่วนผสมแป้ง และมีเคล็ดลับอยู่ที่การเติมน้ำลงไปในขณะทอดแป้งด้วย จะทำให้เกิดไอน้ำและทำให้เนื้อของขนมผักกาดนิ่มเหมือนกับสูตรดั้งเดิมนั่นเอง แต่ประหยัดเวลาไปได้เยอะทีเดียว
ส่วนผสม
- หัวไชเท้า 1 หัว
- เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
- แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 1 1/3 ถ้วย
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช
- กุนเชียง
- ไข่เป็ด
- ซีอิ๊วดำ เล็กน้อย
- ซีอิ๊วขาว เล็กน้อย
- ถั่วงอก
- ใบกุยช่าย
วิธีทำ
นำหัวไชเท้าไปขูดให้เป็นเส้น ๆ ด้วยเครื่องผสมอาหาร (Food Processor)
ใส่เกลือลงไปในหัวไชเท้าที่ขูดไว้ คลุกผสมให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ 10 นาทีจนหัวไชเท้าคายน้ำออกมา จากนั้นใช้มือบีบน้ำออกจนหมด จะได้เนื้อหัวไชเท้าประมาณ 1 ถ้วย
ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำ และเกลือป่นลงในเครื่องผสมอาหาร (วิธีนี้จะทำให้เนื้อแป้งซับน้ำได้เต็มที่ และไม่ต้องเสียเวลาแบบใช้มือผสม) จากนั้นเทใส่อ่างผสม เตรียมไว้
ใส่หัวไชเท้าที่บีบน้ำออกแล้ว 1 ถ้วยลงในส่วนผสมแป้ง คนผสมให้เข้ากัน จะได้แป้งขนมผักกาดสด เตรียมไว้
นำกระทะเทฟลอนขึ้นตั้งไฟกลาง-อ่อน ทาน้ำมันเคลือบผิวกระทะบาง ๆ พอกระทะร้อนตักส่วนผสมแป้งใส่ลงไป เกลี่ยให้ทั่วกระทะ โดยกะให้แป้งบางประมาณ 5 มิลลิเมตร (ถ้าหนาเกินไป แป้งด้านในจะไม่สุก) ทอดนานประมาณ 5 นาทีจนผิวด้านล่างสุก
กลับด้านแป้งแล้วทอดต่ออีก 2 นาที จากนั้นเติมน้ำลงไป 3/4 ถ้วย น้ำจะเดือดเป็นไอขึ้นมาแล้วปิดฝา อบไว้ประมาณ 2 นาที จนน้ำแห้ง (วิธีนี้จะทำให้ขนมผักกาดสุก และเนื้อนิ่มเพราะอบด้วยไอน้ำ)
ตักขนมขึ้นจากกระทะ หั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอดีคำตามชอบ เตรียมไว้
นำกุนเชียงไปทอดให้สุก ตักขึ้น เตรียมไว้
ใส่น้ำมันลงในกระทะ พอร้อนใส่ไข่เป็ดลงไป เกลี่ยให้ไข่กระจายทั่ว ๆ
พอไข่เริ่มสุก ประมาณ 50% ใส่แป้งลงไปผัดกับไข่ให้เข้ากัน
ใส่ซีอิ๊วดำลงไปเล็กน้อย ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว
ใส่กุนเชียงทอด ถั่วงอก และใบกุยช่ายลงไปผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณ Swin สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม